รกฟ้า
ชื่อ : รกฟ้า ชื่ออื่นๆ : กอง (อุตรดิตถ์-สุโขทัย-พิษณุโลก-สงขลา) ,ชะลีก (เขมร-บุรีรัมย์) , สพิแคล่(กะเหรี่ยง- เชียงใหม่),เซือก, เซียก(ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ-อีสาน) , คลี้(ส่วย- สุรินทร์) เชือก(สุโขทัย), ฮกฟ้า(พายัพ) , ชะลีก(เขมร-พระตะบอง) ชื่อวิทยาศาสตร์: Terminalia alata วงศ์ : COMBRETACEAE ลักษณะทั่วไป : ต้น เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ จะแตกกิ่งก้านสาขาตรงเรือนยอดของต้น ซึ่งแน่นทึบ เปลือกของลำต้น จะเป็นสีเทาค่อนข้างดำ และแตกเป็นสะเก็ด ลำต้นจะมีความสูงประมาณ 10 - 30 เมตร ใบ จะเป็นสีเขียว เมื่อใบยังอ่อนจะมีขนเป็นสีน้ำตาล ปกคลุมประปราย แต่เมื่อแก่ขนนี้ก็จะหลุดร่วงไปเอง ลักษณะของใบจะเป็นรูปมนรี ตรงปลายใบและโคนใบจะมน ตรงปลายจะเป็นติ่งทู่ๆ ยาวออกมาเล็กน้อย ขอบใบเป็นคลื่นๆ ใบจะมีความกว้างประมาณ 3-5 นิ้ว และยาว 5-12 นิ้ว ดอก เวลาที่รกฟ้าจะออกดอกนั้น จะต้องผลัดใบออกหมดก่อนแล้วดอกจะแตกออกเป็นสีขาวสะพรั่งเต็มต้น ดอกของพรรณไม้นี้จะออกเป็นช่อๆ และมีขนาดเล็ก ดอกบานเต็มที่ประมาณ 3-4 มม. ผล จะเป็นแบบผลแห้ง แข็ง มีความกว้างประมาณ 2.5-5 ซ.ม. และยาวประมาณ 0.3-0.4 ซม. จะมีปีกหนาและ เป็นมันกว้างกว่าผล ภายในผลจะมีอยู่ 1 เมล็ด สรรพคุณ : ราก ใช้ขับเสมหะ เปลือก นำไปต้มน้ากินรักษาอาการท้องร่วง อาเจียน ขับปัสสาวะ บำรุงหัวใจ ใช้ภายนอกเป็นยาห้ามโลหิต และใช้ ชะล้างบาดแผล |